ประตูกระจก มีกี่ประเภท? เลือกใช้อย่างไรให้ลงตัว

 ประตูกระจก ปัจจุบันการตกแต่งบ้านด้วยหน้าต่างกระจกบานใหญ่เป็นแฟชั่น ทำให้ผู้ใช้ทราบถึงคุณลักษณะของแก้วแต่ละใบมากขึ้น แก้วนั้นๆ เหมาะกับสภาพแวดล้อมในท้องถิ่นหรือไม่? เพื่อความปลอดภัยของคนในบ้านและคำนึงถึงอายุการใช้งาน ก็ไม่เป็นปัญหากับเฟอร์นิเจอร์แน่นอนถ้าเลือกแบบกระจก มันจะทำให้พื้นที่กว้างขวางขึ้น

 

ประตูกระจก และ ประตูกระจกบานเลื่อน มีกี่ประเภท? เลือกใช้อย่างไรให้ลงตัว

ประตูกระจก การประหยัดพื้นที่เป็นข้อดีประการแรกที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าเป็นประตูทั่วไปต้องเปิด ผลักออก หรือดึงเข้าครับ ทำให้เฟอร์นิเจอร์ถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบในบ้านไม่ใช่แนวผลักและดึง มิฉะนั้น อาจทำให้เฟอร์นิเจอร์รอบข้างเสียหายได้ แต่เมื่อเป็นบานเลื่อนก็สามารถเลื่อนไปทางซ้ายหรือขวาตามราง ประตูกระจกบานเลื่อน ที่คุณใช้งานก็ได้ พื้นที่แค่ 80 ซม.

1. กระจกนิรภัยเทมเปอร์ (Tempered Glass)

ที่รู้และคุ้นเคยก็คือเป็นแก้วที่มีความทนทานสูง และสามารถต้านแรงลมได้เป็นอย่างดีเหมาะสำหรับใช้งานนอกอาคารหรือที่เราเรียกกันว่า กระจกอบ เป็นกระจกธรรมดาที่ผ่านกระบวนการอบด้วยอุณหภูมิสูงประมาณ 650 – 700 องศาเซลเซียส และทำให้เย็นทันทีด้วยการเป่าลมแรงดันสูง ประสิทธิภาพความแข็งแรงดีขึ้น ทนต่อแรงกระแทก แรงกด และแรงอัดได้ดีขึ้น 4-5 เท่า ทนความร้อนได้สูงสุด 290°C และอุณหภูมิเปลี่ยนแปลงฉับพลันได้สูงสุด 150°C

แก้วที่ผ่านการทำให้อ่อนตัวด้วยกระบวนการที่อุณหภูมิสูง เมื่อกระจกแตก มันจะแตกตัวเป็นอนุภาคคล้ายเมล็ดข้าวโพดทั่วกระดาษ จะไม่แตกใส่ปากฉลามเหมือนแก้วทั่วไป ดังนั้น จึงปลอดภัยต่อผู้ใช้ และจากลักษณะข้างต้น กระจกนิรภัยสามารถใช้ได้ทั้งกลางแจ้ง และภายในอาคาร เช่น ใช้ทำหน้าต่างกระจก ใช้เป็น ประตู บานเปลือย ผนังม่านกระจก (Glass Curtain Wall) ของอาคารขนาดใหญ่และอาคารสูง ฉากกั้นอาบน้ำ ผนังกั้นห้องภายใน

2. กระจกลามิเนต (Laminated Glass)

ประเภทที่จัดเป็นกระจกนิรภัยโดยการต่อหรือติดกระจกเทมเปอร์ (Tempered Glass) หรือ บานเลื่อนกระจก ธรรมดา (Floated Glass) ตั้งแต่ 2 ชิ้นขึ้นไปด้วย PVB (Polyvinyl Butyral) หรือ EVA (Ethylene Vinyl Acetate) เพื่อให้ฟิล์มประกบระหว่างกระจก เมื่อกระจกแตกแล้วเศษกระจกยังติดกันไม่หลุด ดูเหมือนใยแมงมุม มีความปลอดภัยในการใช้งานมากกว่ากระจกประเภทอื่นๆ

เหมาะสำหรับผนังภายนอก ราวบันได หลังคาสกายไลท์ของอาคารสูง และกระจกลามิเนตช่วยป้องกันเสียงรบกวนจากภายนอก เอฟเฟกต์ฉนวนกันเสียงดีกว่ากระจกทั่วไปและยังช่วยป้องกันลมแดดได้ด้วยสามารถป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้มากกว่า 90% และทนต่อแรงกระแทก ป้องกันการโจรกรรม

3. กระจกฉนวนกันความร้อน (Insulated Glass)

หรือกระจกสองชั้น การใช้กระจกนี้เน้นไปที่การป้องกันความร้อน เน้นการประหยัดพลังงานโดยเชื่อม ประตูเลื่อนกระจก ตั้งแต่ 2 บานขึ้นไปเข้ากับกรอบอลูมิเนียมหรือซิลิกอนระหว่างบานที่มีสารดูดความชื้นและวัสดุฉนวน ช่วยรักษาอุณหภูมิภายนอกออกจากตัวอาคารได้ดี แต่เอากระจกมาประกบกัน กลายเป็นว่า ขนาดกระจกกว้างกว่ากระจกทั่วไป ต้องเว้นระยะการติดตั้งให้มากขึ้น

4. กระจกโฟลต (Float Glass)

พื้นผิวเรียบสนิทที่ช่วยให้แสงผ่านได้สูง ซึ่งเอาไปแปรรูปได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น กระจกลามิเนต กระจกเงา กระจกโค้ง กระจกพ่นทราย ประตูกระจก หากต้องการใช้กระจกประเภทนี้ต้องคำนึงถึงความปลอดภัย ห้ามใช้ในการติดตั้งที่เสี่ยงต่อการถูกกระทบกระแทก เนื่องจากหักง่าย แตกง่าย ลักษณะเหมือนปากฉลาม มีความคม และไม่ทนต่ออุณหภูมิสูง

5. กระจกสีตัดแสง (Heat Absorbing Glass)

โลหะที่เติมลงไปในเนื้อกระจก สร้างเฉดสีที่ต้องการ แก้วนี้สามารถดูดซับพลังงานความร้อน แสงตกกระทบผิวกระจกประมาณ 40-50% กระจกยิ่งเข้ม ค่าการดูดกลืนความร้อนยิ่งสูง ลดความร้อนในบ้านได้ดีเยี่ยม นอกจากนี้ยังลดปริมาณแสงที่ส่องผ่าน ให้แสงที่นุ่มนวลขึ้น สบายตาขึ้น สีที่ใช้บ่อยที่สุดคือสีเขียว

ความคิดเห็น

บทความที่ได้รับความนิยม